เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 16 มิ.ย. พ.ต.ท. นิติเวช เสาะแสวง พงส.ผนก.สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าบริษัทควอลิตี้ มิเนอรัล จำกัด (มหาชน) เลขที่ 9/13-19 ซอยเชนสุกี้ ย่านสะพานควาย แขวงและเขตจตุจักร กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว ผกก.สน. บางซื่อ พ.ต.ท.พิชิต กอปรกิจงาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สิทธิชัย ธัญญาบาล สว.สส. พ.ต.ท.นาคนริศ รัตนบุรี สว.สส. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสายตรวจ รถกู้ชีพ ร.พ.พระมงกุฎฯ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ไปถึงพบที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น ติดกัน 4 คูหา โดยจำหน่ายสารเคมีประเภทแคลเซียมคาร์บอเน็ต ที่โต๊ะทำงาน รปภ.ที่อยู่บนฟุตปาธหน้าบริษัท พบนาย บุญเริง เทศเวียน อายุ 52 ปี ชาว จ.นครราชสีมา พนักงานรปภ. สวมชุดซาฟารีสีกรมท่า รองเท้า หนัง ถูกยิงที่แก้มซ้าย 1 แผล ต้นแขนอีก 1 แผล สภาพนั่งอยู่บนเก้าอี้ มีเลือดไหลจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต ก่อนรีบนำส่งร.พ.เปาโล สะพานควาย แต่ปรากฏว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่พฐ. ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 3 ปลอกและหัวกระสุน 1 หัว ตกห่างจากที่เกิดเหตุเล็กน้อย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน น.ส.ดวงฤทัย กัสสโท อายุ 39 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ขณะเกิดเหตุมีฝนตกพร่ำๆ ได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด เมื่อหันไปดูเห็นผู้ชายสูงประมาณ 180 ซ.ม. ผิวขาว สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงสีฟ้า หมวกแก๊ปสีฟ้า และปิดปากด้วยหน้ากากอนามัย มือหนึ่งถือร่มสีม่วงอ่อน อีกมือหนึ่งถือถุงพลาสติก ซึ่งภายในคล้ายกับมีผ้าห่อบางอย่างไว้ และมีคนบอกว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ก่อเหตุ ชาวบ้านจึงเดินตามไปแต่รักษาระยะห่างเพราะกลัว อันตราย ชายคนดังกล่าวเดินไปเรื่อยๆ ด้วยความใจเย็น ก่อนจะคลาดกันบริเวณวัดไผ่ตัน
ด้านนายทวี เกตุสิทธิ์ อายุ 55 ปี ผู้ดูแลแผงพระในซอยดังกล่าว ให้การว่าผู้ตายเป็นรปภ.ของบริษัทไจแอ้นท์ กรุ๊ป จำกัด โดยได้รับหน้าที่มาเฝ้าหน้าบริษัทดังกล่าวกว่า 10 ปีแล้ว โดยจะทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นทุกวัน ผู้ตายเป็นคนอัธยาศัยดีแต่เจ้าชู้ ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องกับใคร จะมีทะเลาะบ้าง ก็กับคนที่มาจอดรถขวางทางเท่านั้น โดยเมื่อเย็นวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ตายดื่มสุราและส่องพระกับเพื่อนอีก 4 คน มีคนเห็นว่าผู้ตายเพิ่งปล่อยพระหลวงพ่อคูณไป ในราคา 1 แสนบาท และก่อนเกิดเหตุ คนร้ายมาดูลาดเลาและหลบอยู่ภายในตู้โทรศัพท์สาธารณะประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเดินออกมาก่อเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แต่จากการสอบสวนตั้งเอาไว้ 2 ประเด็น คือเรื่องที่เกี่ยวกับการปล่อยพระหรือชู้สาว ซึ่งได้ให้ชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบภาพวงจรปิด ตามบริษัทห้างร้านต่างๆ ตามราย ทางว่าสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ หรือภาพผู้ต้องสงสัยขณะหลบหนีไว้ได้บ้างหรือไม่ เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
source:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1434509622
